เจอแล้วพยาน!! เล่าที่มากระสุนปริศนาพุ่งใส่เก๋ง เจาะร่างนร.!! แม่ช็อกลูกถูกยิงเห็นรถติดรีบเปิดประตูวิ่งไปรพ.เอง
จากกรณี นักเรียนหญิงชั้น ม.4 บดินทรเดชา 2 ถูกกระสุนปริศนา พุ่งทะลุกระจกหน้ารถเข้าไหล่ขวาเลือดท่วม แต่ ด.ญ.ใจเด็ดลงจากรถวิ่งข้ามถนนเข้าร.พ.นพรัตน์ราชธานีที่อยู่ตรงข้ามพอดี แต่ไปไม่ถึงเป็นลมล้มฟุบหน้าโรงพยาบาล แม่แทบช็อก เผยไปรับลูกกลับบ้านหลังเรียนพิเศษ ช่วงกลับจากถ.สวนสยาม จะมารามอินทรา ได้ยินเสียงกระจกรถแตก ขณะที่ลูกสาวบอกถูกยิง แล้ววิ่งมาหาหมอเอง ส่วนตัวเองต้องไปวนรถตามมา ยันไม่เคยบาดหมางใคร ตร.เร่งสอบหาสาเหตุ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ต.ค ที่สน.บางชัน พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวิชชา จินดาคำ ผกก.สน.บางชัน เปิดเผยความคืบหน้าคดีกระสุนปริศนา ยิงใส่รถยนต์ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 4255 กรุงเทพฯ บริเวณกระจกหน้าเหนือคอนโซลฝั่งคนนั่ง ซึ่งขณะนั้น นางฐิติยา สงรัตน์ อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่กำลังขับรถ เพื่อจะกลับบ้าน เป็นเหตุให้ น.ส.อานัตตา อายุ 16 ปี ที่นั่งอยู่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่แม่เด็กจะพาเด็กไปส่ง รพ.นพรัตน์ราชธานี
แต่ขณะที่จะถึงรพ.นพรัตน์ รถติดมาก เด็กได้วิ่งไปที่ รพ.นพรัตน์เอง ซึ่งไม่ไกลมากนัก ก่อนเด็กจะล้มลง เนื่องจากทนผิดบาดแผลไม่ไหว และถูกนำส่งรพ.นพรัตน์ โดยเหตุเกิดที่บริเวณช่วงยูเทิร์น ถ.สวนสยาม เมื่อค่ำของวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยทางด้าน พ.ต.อ.มานพ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบฯ ตรวจหากล้องวงจรปิด พร้อมกันนั้นได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบร่องรอยวิถีกระสุน
โดยนำรถคันเกิดเหตุมาจอดและจำลองเหตุการณ์ที่บริเวณปากซอยสวนสยาม 6 และหาวัตถุพยานเพิ่มเติม ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้พบวัตถุพยาน คือ ปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่บริเวณริมฟุตปาธ หน้าปากซอยสวนสยาม6 หน้าร้านผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้จำลองเหตุการณ์ โดยเอารถเกิดเหตุมาจอด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำเหล็กมาทำเป็นวิถีของแนวกระสุนที่หน้ากระจกรถ และนำเจ้าหน้าตำรวจหญิงซึ่งมีส่วนสูง 160 ซม. เท่ากับเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้ใช้เหล็กเทียบเป็นวิถีกระสุนดู พบว่าแนวกระสุนปืนไปโดนช่วงหัวไหล่ขวา ซึ่งเป็นลักษณะบาดแผลเด็กที่ถูกยิงพอดี
ส่วนอาการของเด็กหญิง ได้ถูกนำไปเอ็กซเรย์ สแกนหาจุดถูกกระสุน ก่อนกลับมาผ่าตัดแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ที่บริเวณปากซอยสวนสยาม 6 พบกับพยานคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ และนั่งกินข้าวบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านส้มตำ ระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ประมาณเวลา 19.25 น. เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 5 คน ใช้รถ BMW สีดำ และ รถกระบะ จากนั้นชายฉกรรจ์ ลงมาจากรถ BMW โดยคนยิงปืน ลักษณะสวมเสื้อสีเทา สูงประมาณ 160 ซม. คล้ายนักกล้ามมีรอยสักที่ไหล่ซ้าย เดินมาใกล้ซอยสวนสยาม6 จุดที่พบปลอกกระสุนปืน
จากนั้นมีรถจยย.คันหนึ่งขับโดยผู้หญิง มีเด็กซ้อนท้ายมา ขับสวนเลนมา จากนั้น มือปืนคนยิง ได้โต้เถียงกับหญิงดังกล่าว ก่อนจะชักปืนขึ้นมาแล้วยิงไล่หลัง กระทั่งกระสุนพลาดไปโดนเด็กหญิงดังกล่าว หลังจากเกิดเหตุ ชายดังกล่าวก็ได้ขึ้นรถหลบหนีไป
เวลา 14.30 น. วันที่ 8 ต.ค. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.(ปป.1) นำกระเช้าดอกไม้เข้าเยี่ยม น.ส.อานัตตา สงรัตน์ หรือ น้องวาว อายุ 16 ปี เหยื่อถูกกระสุนปริศนายิงใส่รถเก๋ง กระสุนเจาะเข้าที่ไหล่ขวา ขณะกำลังนั่งรถกลับบ้านพร้อมมารดา เหตุเกิดที่ถนนสวนสยามเยี้องห้างฯ แขวงและเขตคันนายาว กทม. เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา
โดยน้องวาวมีอาการดีขึ้น สามารถพูดคุยได้ แต่แพทย์ยังไม่ได้ผ่าเอาหัวกระสุนออก ทำได้เพียงสแกนเพื่อหาจุดที่กระสุนฝัง เนื่องจากเป็นจุดที่อันตรายใกล้เอ็นและกระดูก โดยกล่าวกับสื่อมวลชนว่า ตอนเกิดเหตุขณะที่นั่งรถกลับพร้อมแม่ มองเห็นกลุ่มวัยรุ่นชายลักษณะเหมือนนักเรียนตัดผมหัวเกรียน ยืนจับกลุ่มกันอยู่ข้างถนน จากนั้นได้ยินเสียงกระจกแตกแล้วรู้สึกเจ็บ คลำดูจึงรู้ว่าถูกยิง ที่ผ่านมาตนไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ใครทำอะไรก็ต้องได้รับผลกรรมตอบแทนแบบนั้น ถ้าหากเป็นเรื่องสถาบัน ตนคิดว่าอยากให้เลิกทะเลาะกันได้แล้ว เพราะไม่อยากเห็นคนที่บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่ออีก อยากให้จับกุมคนร้ายมาลงโทษให้ได้ ส่วนตัวก็สู้ ไม่อ่อนแอกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 08 ตุลาคม พ.ศ. 2558
ที่มา :
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444280776