"ไลโคปีน"ต้านมะเร็ง มะเขือเทศสกัดโรคร้าย

[chusit]

"ไลโคปีน"ต้านมะเร็ง มะเขือเทศสกัดโรคร้าย

สถาบันวิจัยและพัฒนาคาโกเมะแห่งประเทศญี่ปุ่น เสนอผลวิจัยว่า "ค้นพบสารอาหารสีแดงชนิดใหม่ที่เรียกว่า "ไลโคปีน" (Lycopene) ซึ่งเป็นสารชนิดหนึ่งในกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่พบมากในมะเขือเทศ แตงโม และพิงก์เกรปฟรุต หรือผลไม้ที่ให้สารสีแดง สีส้ม และเหลือง มีประสิทธิภาพจำเป็นแก่ร่างกาย ทำหน้าที่ปกป้องการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายจากการทำร้ายโดยอนุมูลอิสระ และป้องกันโรคร้ายต่างๆ

ปัจจุบันโรคมะเร็งที่ท็อปฮิตติดชาร์ตของ ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป พบมะเร็งปากมดลูกและรังไข่ และสำหรับผู้ชายอายุ 40-75 ปี มักอยู่ในภาวะเสี่ยง ต่อการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก จากการศึกษาทางคลินิกในวารสารวิจัยมะเร็งปี 2542 พบว่า ผู้ชายร้อยละ 83 มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง เมื่อได้รับสาร "ไลโคปีน" ในเลือดสูงถึง 0.40 ไมโครกรัมต่อลิตร หรือเปรียบเทียบเท่ากับการรับประทานผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะเขือเทศ อย่างเช่นสปาเกตตีซอสมะเขือเทศ 2 ครั้งต่อสัปดาห์

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยโดยสถาบันวิจัยจากประเทศญี่ปุ่น สำรวจปริมาณการบริโภคมะเขือเทศในอิตาลีตอนเหนือและตอนใต้ เพื่อป้องกันโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร พบว่า กลุ่มคนอิตาลีตอนใต้ที่ใช้มะเขือเทศกับน้ำมันมะกอกเป็นวัตถุดิบพื้นฐานของอาหาร มีอัตราการเกิดโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหารต่ำกว่ากลุ่มคนของอิตาลีตอนเหนือ ส่วนใหญ่ซึ่งรับประทานแต่อาหารที่ทำจากเนย น้ำมันหมูกับเนื้อสัตว์เป็นหลัก

"ไลโคปีน" ยังช่วยป้องกันอนุมูลอิสระในระดับเนื้อเยื่อหุ้มเซลล์ในร่างกาย โดยงานวิจัยจากสาขาวิชาสารอาหารและระบาดวิทยา ภาควิชาสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า "ไลโคปีน" มีประสิทธิภาพในการระงับอนุมูลอิสระที่จะทำลายผนังเยื่อหุ้มเซลล์ซึ่งเป็นสาเหตุนำไปสู่โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ขณะที่นักวิจัยชาวฟินแลนด์ ติดตามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นชายวัยกลางคน 1,000 คน 12 ปี พบว่าชายที่มีระดับไลโคปีนในเลือดสูง มีส่วนสำคัญในการช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดสมองตีบ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดทุกประเภท และป้องกันการเกิดเส้นเลือดอุดตันและลิ่มเลือดอุดตันได้มากถึงร้อยละ 59

การรับประทานอาหารเพื่อเพิ่มปริมาณ "ไลโคปีน" ให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่ในครรภ์มารดา วัยรุ่น วัยทำงาน วัยกลางคน วัยชรา

ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอย่าง "ไลโคปีน" ยังสามารถช่วยลดปัญหาริ้วรอยแห่งวัย แถมยังเพิ่มเกราะป้องกันโรคร้ายให้กับร่างกายได้อีกด้วย


ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 03 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 01:57 น. 

ที่มา : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1EYzBNREk0TlE9PQ==&subcatid=