• Welcome to เว็บบอร์ด ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5.
 

ระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 22 บทที่ 13 การพกอาวุธปืน ดาบปลายปืน และตะบอง

เริ่มโดย admin_01, 03 พฤศจิกายน 2015 16:06

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

admin_01

ประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 22
บทที่ 13 การพกอาวุธปืน ดาบปลายปืน และตะบอง










admin_01

 
มาตรา 5 พระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่มาตรา 8ทวิ  มิให้ใช้บังคับแก่
       (1) อาวุธปืน  เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียม อาวุธปืน ของ
           (ก) ราชการทหารและตำรวจที่มีหรือใช้ในราชการ
           (ข) หน่วยราชการที่มีหรือใช้เพื่อป้องกันประเทศ หรือรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน
           (ค) หน่วยราชการ หรือรัฐวิสาหกิจที่มีและใช้ในการป้องกันรักษาทรัพย์สินอันสำคัญของรัฐ
           (ง) ราชการทหารและตำรวจตาม (ก) หรือหน่วยราชการ ตาม  (ข)  ที่มอบให้ประชาชนมีและใช้เพื่อช่วยเหลือราชการของทหารและ
ตำรวจหรือของหน่วยราชการแล้วแต่กรณี
       (2) อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนประจำเรือเดินทะเล   รถไฟ และอากาศยานตามปกติซึ่งได้แสดงและให้พนักงานศุลกากรตรวจตามกฎหมาย
แล้ว
       (3) ดอกไม้เพลิงสัญญาณประจำเรือเดินทะเล อากาศยาน  และสนามบินตามปกติ    

   หน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามวรรคหนึ่ง (1) (ข) หรือ (ค) รวมทั้งชนิด ขนาด และการกำหนดจำนวน ตลอดจนการมีและใช้  การเก็บรักษา
การพาติดตัวการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนลักษณะ   และการอย่างอื่นที่จำเป็นเพื่อการรักษาความปลอดภัยอันเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน   วัตถุระเบิด
ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ให้หน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจดังกล่าวมีและใช้หรือมอบให้ประชาชนมีและใช้เพื่อช่วยเหลือราชการนั้น   ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง"

............................

มาตรา 8 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทาง สาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุ จำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัด ให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด
   ความในมาตรานี้ มิให้ใช้บังคับแก่
   (1) เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทหารและ ตำรวจ ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
   (2) ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจตาม มาตรา 5 วรรคหนึ่ง (1) (ข) หรือ (ค) ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่เพื่อการป้องกันประเทศ หรือรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือรักษาทรัพย์สินอันสำคัญของรัฐ
   (3) ประชาชนผู้ได้รับมอบให้มีและใช้ตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง (1) (ง) ซึ่งอยู่ ในระหว่างการช่วยเหลือราชการและมีเหตุจำเป็นต้องมี และใช้อาวุธปืนในการนั้น

ดังนั้น ไม่ว่าอาวุธปืนที่เจ้าพนักงานตำรวจผู้นั้นพกพาติดตัว จะเป็นอาวุธปืนที่เป็นของส่วนตัวตำรวจผู้นั้น หรือเป็นอาวุธปืนของทางราชการที่เบิกมาใช้ ตามมาตรา 5 ก็ตามแต่มาตรา 5 ของพรบ.อาวุธปืน มิให้รวมถึงมาตรา 8 ทวิ ในเรื่องการพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะด้วย

จึงทำให้เจ้าพนักงานตำรวจผู้นั้น จะพกพาอาวุธปืนของราชการหรือของตนเองไปตามถนน หมู่บ้าน ทางสาธารณะได้นั้นต้องปรากฎว่า เจ้าพนักงานตำรวจผู้นั้นอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 8 ทวิ วรรคสาม (1)

ถ้าไม่ได้อยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ นายตำรวจผู้นั้นจะพกพาอาวุธปืนได้ ก็ต้องได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวด้วยถ้าไม่มีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ก็ต้องมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ เหมือนกับประชาชนทั่วไป เพราะหากไม่อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 8 ทวิ วรรคสาม (1) และไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์แล้วตำรวจ ผู้นั้น จึงมีความผิดฐานพาอาวุธปืนของกลางไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันควรตามมาตรา 8 ทวิ

คำพิพากษาฎีกาที่ 753/2539

จำเลย ที่ 1 รับราชการตำแหน่งรองสารวัตรแผนก 5 กองกำกับการ 2 กองปราบปราม กรมตำรวจ ที่กรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 1 ได้ยื่นใบลาขอหยุดพักผ่อนประจำปีตั้งแต่วันที่ 22 ถึงวันที่ 29 กันยายน 2532 และได้เดินทางไปที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ต่อมาถูกจับและยึดอาวุธปืนของกลางได้ในวันที่ 3 ตุลาคม 2532 ที่ห้องพักโรงแรมพลาซ่า อำเภอสุไหงโก-ลก ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 พาอาวุธปืนของกลางไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและโดยไม่มีเหตุสมควร ทั้งการพาอาวุธปืนของ กลางดังกล่าวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะนั้น จำเลยที่ 1 มิได้อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ราชการเนื่องจากจำเลยที่ 1 มิได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการในท้องที่ดังกล่าว จำเลยที่ 1  จึงมีความผิดฐานพาอาวุธปืนของกลางไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันควรด้วย