• Welcome to เว็บบอร์ด ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5.
 

มติ ก.ตร. ครั้งที่ 13/2555...การเลื่อนยศตำรวจชั้นประทวนที่มีอายุ 53 ปี ให้เป็น ร.ต.ต./อนุมัติร่างระเ

เริ่มโดย chusit, 25 กันยายน 2012 10:24

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

chusit



เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 24 ก.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือก.ตร. ครั้งที่ 13/2555 มีวาระสำคัญ อาทิ การกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) ด้านสืบสวน, การปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งระดับพล.ต.ต.ให้กับสำนักงาน ก.ตร., การปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งให้กับสำนักงานกฎหมายและคดี(กมค.), การปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งให้กับจเรตำรวจ (จต.), การปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งให้กับกองทะเบียนพล(ทพ.) สำนักงานกำลังพล (สกพ.)



พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกตร. กล่าวภายหลังก.ตร.ประชุมนาน 2 ช.ม.ถึงวาระกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) ว่า เมื่อถึงวาระดังกล่าว พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ได้ถอนวาระดังกล่าวออกไป โดยที่ประชุมยังไม่มีการพิจารณาแต่อย่างใด เนื่องจากพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ระบุว่าข้อมูลยังไม่ครบ ไม่เกี่ยวข้องกระแสข่าวที่ว่าก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิคัดค้านเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้จะนำกลับไปพิจารณาในขั้นตอนใด หรือต้องกลับไปที่อนุก.ตร.หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เนื่องจากไม่มีการพูดคุยกันในวาระนี้แต่อย่างใด



พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงวาระปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งว่า มติก.ตร.ให้ยกระดับฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคล ในสง.ก.ตร. เป็นกองพัฒนาการบริหารงานบุคคล มีผบก.เป็นหัวหน้า จากเดิมมีรองผบก.เป็นหัวหน้าหน่วย จึงต้องกำหนดตำแหน่ง ผบก.เพิ่ม 1 ตำแหน่ง และกำลังพล 61 อัตรา ประกอบด้วย ผบก. 1 ตำแหน่ง รองผบก. 4 ตำแหน่ง ผกก. 5 ตำแหน่ง สว. 13 ตำแหน่ง รองสว. 15 ตำแหน่ง ที่เหลือเป็นผบ.หมู่



พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนสง.กมค. ให้ยกระดับฝ่ายตรวจสอบสำนวนคดีอุทธรณ์และฎีกา เป็นกองตรวจสอบสำนวนอุทธรณ์และฏีกา จากเดิมมีรองผบก.เป็นหัวหน้า ให้มีผบก.เป็นหัวหน้าหน่วย กำลังพล 59 อัตรา นอกจากนี้ก.ตร.ยังมีมติปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งใน สง.จต. เป็นการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เป็นกองรับเรื่องราวร้องทุกข์และจริยธรรม เดิมมีหัวหน้าหน่วยเป็นผกก. เปลี่ยนเป็นผบก.เป็นหัวหน้าหน่วย สำหรับในทพ. ให้กำหนดตำแหน่งฝ่ายยศและเครื่องราชอสริยาภรณ์ เป็นจากเดิมมีรองผกก.ให้มีหัวหน้าให้เป็นผกก. ทั้งนี้ตำแหน่ง ผบก.ทั้ง 3 หน่วยต้องรอคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือก.ต.ช. เห็นชอบก่อนจึงจะดำเนินการแต่งตั้งตัวบุคคลได้



พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า มติก.ตร.เรื่องกำหนดเงินเพิ่มให้กับหน่วยนเรศวร 261 สังกัด บก. สนับสนุนทางอากาศ บช.ตชด. และหน่วยอรินทราช สังกัดบก.สปพ.(191) โดยตำรวจชั้นประทวนได้เงินเพิ่มพิเศษอีกเดือนละ 6,000 บาท ชั้นสัญญาบัตรได้เพิ่มเดือนละ 8,000 บาท ซึ่งเทียบเท่ากับทหารที่ทำหน้าที่ด้านการต่อต้านการก่อการร้าย



นอกจากนี้ก.ตร.ยังอนุมัติร่างระเบียบเงินเพิ่มพิเศษให้พนักงานสอบสวน โดยระดับรองสว. หรือ สบ1 จากเดิมเดือนละ 12,000 บาท เป็น 15,000 บาท ส่วนพนักงานสอบสวนชำนาญการ ระดับสว. หรือสบ2 จากเดิมเดือนละ 14,400 บาท เป็น 20,000 บาท พนักงานสอบสวนระดับชำนาญการพิเศษ ระดับรองผกก. หรือสบ3 จากเดิมเดือนละ 17,300 บาท เป็น 30,000 บาท พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิระดับผกก. หรือสบ4 จากเดิมเดือนละ 20,800 บาท เป็น 35,000 บาท พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญระดับรองผบก. หรือสบ5 จากเดิมเดือนละ 25,000 บาท เป็น 41,000 บาท พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญพิเศษระดับผบก. หรือสบ6 จากเดิมเดือนละ 30,000 บาท เป็น 42,000 บาท ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนที่ได้สิทธิ์ดังกล่าวมีจำนวน 12,230 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ร่างระเบียบเงินเพิ่มดังกล่าวจะต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังก่อน


โฆษก ตร. กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมแถลงในที่ประชุมก.ตร.รับทราบ 3 เรื่อง ประกอบด้วยการดำเนินการเลื่อนยศตำรวจชั้นประทวนที่มีอายุ 53 ปี ให้เป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร หรือร.ต.ต. เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ซึ่งจากการสำรวจปีนี้มีจำนวน 3,448 นาย เรื่องที่ 2 ความคืบหน้าการแต่งตั้งผู้ช่วยทูตตำรวจประจำสถานทูตไทยในประเทศจีน, สปป.ลาว, พม่า และกัมพูชา ซึ่งต้องมีคุณสมบัติเป็นรองผบก. และมีความรู้ภาษาต่างประเทศ และเรื่องสุดท้ายมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้ดำรงตำแหน่งก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ซึ่งผศ.วุฒิศักดิ์สามารถเข้าร่วมประชุมก.ตร.ครั้งต่อไปได้ทันที



รายงาน ข่าวแจ้งว่า กรณีพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ผบ.ตร. ถอนวาระกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) ออกจากที่ประชุมก.ตร.วันนี้ เนื่องจากพล.ต.อ. เพรียวพันธ์เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะเกษียณอายุราชการ จึงอยากให้เรื่องสำคัญนี้เป็นหน้าที่ของพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.คนใหม่พิจารณาดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามจากการที่วาระ ดังกล่าวถูกถอดถูกเลื่อนออกจากที่ประชุมก.ตร. มาแล้วหลายครั้ง ความเป็นไปได้ที่จะเปิดตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) เทียบเท่ารองผบ.ตร.จึงน้อยลงเรื่อยๆ...


.............................



ข่าวสดรายวัน
วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555


ที่มา : http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXhNakkxTURrMU5RPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=
TWpBeE1pMHdPUzB5TlE9PQ==

chusit

โฆษกตร. แถลงผลประชุมก.ตร.ผิดพลาด

โฆษก ตร. หน้าแตกเย็บไม่ติด แถลงข่าวผลการประชุม ก.ตร.ผิดพลาดเรื่องปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่ง โยนลูกเจ้าหน้าที่ให้เอกสารมาเลยแถลงไปตามนั้น ผบช.ก.ตร.ยัน มติก.ตร.ให้ถอนวาระปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งไปก่อน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันที่ 26 ก.ย. กรณี พล.ต.ต.ปิยะ  อุทาโย โฆษกตร. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 13/ 2555 เรื่องการปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งใน สนง.จต.,บช.กมค.,สนง.ก.ตร.และ บก.ทพ. รวมถึงกำหนดเงินเพิ่มให้หน่วยอรินทราชและนเรศวร261ว่าก.ตร.มีมติเห็นชอบตาม ที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์  ดามาพงศ์  ผบ.ตร. เสนอ เมื่อวันที่ 24  ก.ย.ที่ผ่านมานั้น


พล.ต.ท.วิบูล  ปรองดอง ผบช.ก.ตร. กล่าวว่า ไม่ทราบว่าการแถลงข่าวเมื่อวันที 24 ก.ย. ที่ผ่านมา มีความผิดพลาดอย่างไร แต่ความจริงแล้วในที่ประชุมก.ตร. ยังไม่ได้มีมติเห็นชอบวาระปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่ง แต่มีมติให้ชะลอการพิจารณาและให้ ตร. กลับไปพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างการเปลี่ยน ผบ.ตร. ควรให้โอกาส ผบ.ตร.คนใหม่เป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง  ทั้งนี้โครงสร้างและกำหนดตำแหน่งดังกล่าวผ่านการพิจารณาของอนุก.ตร. บริหารทรัพยากรบุคคลแล้ว หาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ พิจารณาอีกครั้งก็อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างหรือไม่ ก็ได้ เช่นเดียวกับ การกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษาสบ 10 ด้านสืบสวน โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าการกำหนดตำแหน่งดังกล่าวเพื่อดูงานด้านนิติ วิทยาศาสตร์นั้นเป็นเหมาะสมแต่ให้กลับไปพิจารณาชื่อของตำแหน่ง คุณสมบัติต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับการสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่ง


พล.ต.ท.วิบูล กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งนั้น แม้จะผ่านความเห็นชอบจาก ก.ตร.แล้ว ยังต้องผ่านขั้นตอนระเบียบของกฎหมาย ไม่สามารถมีผลในการแต่งตั้งครั้งต่อไปได้ โดยการกำหนดตำแหน่งระดับผบก. ต้องผ่านคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. เพื่อเปิดตำแหน่ง  ส่วนการยกระดับหน่วยราชการต้องนำเรื่องผ่านคณะรัฐมนตรีก่อนมีความเห็นชอบให้ ออกเป็นกฎกระทรวงกำหนดหน่วยราชการระดับกองกำกับการ หากเป็นระดับกองบังคับการต้องออกเป็นพระราชกฤษฏีกา


ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า  เมื่อเข้าไปยังห้องประชุม ที่ประชุมได้พิจารณาวาระดังกล่าวไปบ้างแล้ว จากนั้นจึงได้รับเอกสารจากเจ้าหน้าที่โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับโครง สร้างและกำหนดตำแหน่ง โดยคิดว่าผ่านความเห็นชอบของก.ตร. จึงแถลงข่าวตามที่เอกสารที่ได้รับเอกสารมา


เดลินิวส์ออนไลน์
วันพุธที่ 26 กันยายน 2555 เวลา 15:58 น.

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/crime/157506