• Welcome to เว็บบอร์ด ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5.
 

ชาวลำปาง เฮ ผลตรวจชัด ทองคำแม่น้ำวัง บริสุทธิ์สูงกว่าเยาวราช

เริ่มโดย chusit, 02 กุมภาพันธ์ 2012 11:21

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

chusit

ชาวลำปาง เฮ ผลตรวจชัด ทองคำแม่น้ำวัง บริสุทธิ์สูงกว่าเยาวราช







ชาวลำปาง เฮ นักธรณีวิทยา เผยผลการตรวจสอบ ทองคำที่พบใน แม่น้ำวัง ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง มีความบริสุทธิ์มากกว่า 98% ซึ่งสูงกว่าที่มีขายกันในย่านเยาวราช กรุงเทพมหานคร เสียอีก...


นายอดุลย์ ใจตาบุตร นักธรณีวิทยาชำนาญการพิเศษ สำนักงานทรัพยากรธรณีวิทยา เขต 1 จ.ลำปาง เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ นำเครื่อง GPS และอุปกรณ์ตรวจสอบทองคำ ตรวจลักษณะทองคำที่ชาวบ้าน ใน อ.วังเหนือ จ.ลำปาง จำนวนมาก ที่นำอุปกรณ์ไปขุดร่อนหาทองคำ ภายในแม่น้ำวัง ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ซึ่งขณะนี้แม่น้ำมีสภาพแห้งขอดว่า ทองคำที่ชาวบ้านร่อนหาได้มีลักษณะเป็นเกล็ดและไร มาจากภูเขาที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง ต.วังแก้ว ต.ทุ่งฮั้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง กับบริเวณบ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งทองดังกล่าวเกิดจากสารแร่น้ำร้อน ที่เกิดร่วมกับสารแร่ควอตซ์ ซึ่งทองคำที่ได้เป็นทองคำธรรมชาติบริสุทธิ์มากกว่า 98% ขึ้นไป ซึ่งถือว่าบริสุทธิ์มากกว่าที่มีจำหน่ายในย่านเยาวราช กรุงเทพมหานคร ในขณะนี้ด้วย


ไทยรัฐออนไลน์
2 กุมภาพันธ์ 2555, 09:55 น.

ที่มา:  http://www.thairath.co.th/content/region/235351

chusit


คนแห่ร่อนทอง อบต.หวั่นตลิ่งพัง ปักเขตห้ามขุด



นายก อบต.วังแก้ว หวั่นขุดหลุมร่อนทองทำตะลิ่งแม่น้ำวังพังทรุด ออกมาตรการขอความร่วมมือห้ามขุดหลุม ปักหลักแนวเขตกั้น เผยในแต่ละวันมีชาวบ้านแห่ร่อนทองมากกว่า 100 คน มีรายได้เฉลี่ย 400 บาทต่อวัน...

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. นายพนม เจนจัด นายก อบต.วังแก้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า จากกรณีชาวบ้านในพื้นที่ อ.วังเหนือ จำนวนมากร่อนหาทองคำในแม่น้ำวังในเขตท้องที่บ้านฮ่าง ม.4 และบ้านค่ายวัง ม.5 ต.วังแก้ว ทาง อบต.วังแก้ว เกรงว่า 2 ฝั่งแม่น้ำวังจะเกิดการทรุดตัว จากการขุดหลุมลึกประมาณ 1-2 เมตร เพื่อร่อนหาทองคำ โดยได้ออกมาตราการขอความร่วมมือห้ามขุดหลุมร่อนทองใกล้ฝั่งอย่างเด็ดขาด โดยที่ผ่านมา ได้ปักหลักแนวเขตเรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการบำรุงรักษาสองฝั่งแม่น้ำวังที่เพิ่งขุดลอกแม่น้ำวังได้ไม่นาน อีกทั้งดินยังไม่แน่นและไม่มีวัชพืชปกคลุมดิน อาจทำให้พังหรือทรุดได้



อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีประชาชนแห่มาร่อนทองในแต่ละวันมากกว่า 100 คน และได้กากทองคำเป็นจำนวนมาก มีรายได้เฉลี่ย 400 บาทต่อวัน หรือบางรายสะสมเอาไว้ทีละน้อย และนำไปขายเป็นกรัมในราคากรัมละ 1,370-1,400 บาท

ด้านนายโกวิทย์ แซ่อิว อายุ 60 ปี ชาวบ้านค่ายวัง ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้รับซื้อกากทองจากชาวบ้าน กล่าวว่า กากทองคำที่ร่อนได้ในแม่น้ำวังถือเป็นแหล่งแร่ทองคำชั้นดี เนื่องจากกากทองคำจะออกสีทองอมเหลืองแดง ซึ่งกลุ่มผู้เจียระไนทองจะรู้ดีหรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูง 95% โดยจะรับซื้อกากทองคำจากชาวบ้านทุกวันไม่ว่ามากหรือน้อย เพื่อส่งขายให้กับเพื่อนชาวจีนในเยาวราชที่กรุงเทพฯ เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านให้ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อขายทองคำ นำเงินมาใช้จ่ายหลังหมดฤดูการเก็บเกี่ยวข้าว.



ไทยรัฐออนไลน์
2 กุมภาพันธ์ 2555, 21:00 น.

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/region/235495

chusit

ชาวลำปางแห่ร่อนทองหวังรวย



ชาวลำปางยังแห่ขุดทองแม่น้ำวัง นักวิชาการฟุ้งไทยมีสายแร่ทองคำถึง 2 สาย แต่ขาดการสำรวจเชิงเศรษกิจ กรณีชาวบ้านใน ต.วังทอง ต.วังแก้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง แห่ขุดทองในแม่น้ำวัง หวังสร้างรายได้ ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น เกี่ยวกับความคืบหน้าในวันนี้ (3 ก.พ.) นายเติมศักดิ์ เกิดกูล กำนันตำบลวังแก้ว กล่าวว่า การร่อนทองในพื้นที่มีมานานแล้วจนถือเป็นเทศกาลประจำปีแล้ว โดยมีกติกาว่าจะไปล้ำเขตซึ่งกันและกัน ทั้งยังห้ามไม่ให้คนต่างถิ่นเข้ามาทำการร่อนทองเด็ดขาด

"วิธีการหาทองคำของชาวบ้านคือการขุดดินกลางแม่น้ำมาร่อนเอาเศษดินทรายออก ซึ่งจะเจอทองมาน้อยตามโชคของแต่ละคน ซึ่งเฉลี่ยแล้วอย่างน้อยคนหนึ่งจะมีรายได้วันละ 300 บาทขึ้นไป บางรายโชคเข้าข้างสามารถหาทองได้ถึงวันละหลักหมื่นบาทก็ได้ ในปีนี้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องจึงอาจชะล้างดินบนภูเขาที่มีเศษทองปนอยู่ลงมามาก จึงทำให้ชาวบ้านได้ผลตอบแทนสูงตามไปด้วย" นายเติมศักดิ์ กล่าว

ด้านนายวรวิทย์ จิตใหญ่ อายุ 42 ปี เผยว่า ปกติมีรายได้จากการรับจ้างเพียงวันละ 200-300 บาทเท่านั้น แต่การเสี่ยงโชคด้วยการร่อนทองกลับสร้างรายได้มากถึงวันละ 2,000-3,000 บาท

ขณะที่ ดร.สมบูรณ์ โฆษิตานนท์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 ลำปาง กล่าวว่า ในไทยมีแร่ทองคำกระจายอยู่ทั่วไปในหลายจังหวัด แต่ที่มีปริมาณสูงมีอยู่ 2 บริเวณ คือ บริเวณขอบตะวันตกของที่ราบสูงโคราช ตั้งแต่จังหวัด เลย หนองคาย เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ ลพบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี และระยอง และทางภาคเหนือตั้งแต่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย และจังหวัดตาก ส่วนพื้นที่อื่น ๆ จะพบกระจาย เช่น อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นต้น


"สำหรับทองที่พบลำปางถือว่าเป็นจุดที่มีสายแร่ทองคำพาดถึง 2 สาย โดยสายแรกมาจากเชียงราย พะเยา ส่วนอีกสายมาจาก อ.เกาะคา อ.เสริมงาม จ.ลำปาง แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมายังไม่มีการสำรวจที่ชัดเจนถึงขั้นกำหนดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้" ดร.สมบูรณ์ กล่าว.


เดลินิวส์ออนไลน์
วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 11:49 น.

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/thailand/10688