เว็บบอร์ด ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5

หมวดพิสูจน์หลักฐานตำรวจ => ระเบียบ คำสั่ง กฎหมาย กฏ ก.ตร. หนังสือ ฯลฯ ที่น่าสนใจ => หัวข้อที่ตั้งโดย: admin_01 เมื่อ 10 ตุลาคม 2012 10:35

ชื่อ: ครม.เห็นชอบ ร่างพ.ร.ฎ.เงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ
โดย: admin_01 เมื่อ 10 ตุลาคม 2012 10:35

ครม.เห็นชอบ ร่างพ.ร.ฎ.เงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ


วันที่ 9 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม.ว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) เสนอ มีสาระสำคัญ คือ กำหนดประเภทตำแหน่งและการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจเพื่อให้ การได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจเป็นไปตามมาตรา 67 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 สืบเนื่องจาก ปัจจุบันการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจเป็นไปตามที่กำหนดในพระ ราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้ บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ พ.ศ. 2538 และที่แก้ไขเพิ่มเติม  ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ที่บัญญัติให้นำพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับเงินประจำตำแหน่งที่ออกตามพระราช บัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538 มาใช้บังคับกับการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ โดยอนุโลมในระหว่างที่ยังมิได้ตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 67 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554   โดยที่มาตรา 67 วรรคสาม ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 บัญญัติว่า “ข้าราชการตำรวจตำแหน่งใด จะได้รับเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชบัญญัตินี้ในอัตราใดให้เป็นไปตามที่ กำหนดในพระราชกฤษฎีกา”

ดังนั้นเพื่อให้การได้รับเงินประจำตำแหน่ง ของข้าราชการตำรวจเป็นไปตามข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น เห็นควรออกพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจมารองรับ


ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 19:40 น. 


ที่มา :  http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME9UYzROalV3TXc9PQ==&catid=01
ชื่อ: มติ ก.ตร. ครั้งที่13/2557 เมือ 26 พ.ย.57 เกี่ยวกับการปรับบัญชีเงินเดือนของข้าราชการตำรวจ
โดย: chusit เมื่อ 06 มกราคม 2015 11:42
(http://upic.me/i/87/c0001.jpg) (http://upic.me/show/54172930)

(http://upic.me/i/6x/u0002.jpg) (http://upic.me/show/54172932)
ชื่อ: เฮดังๆ ทหาร-ตำรวจ-ครู-ข้าราชการสภา สนช. ฉลุย! ผ่านกฎหมาย ขึ้นเงินเดือนแล้ว
โดย: chusit เมื่อ 20 มีนาคม 2015 10:43
เฮดังๆ ทหาร-ตำรวจ-ครู-ข้าราชการสภา สนช. ฉลุย! ผ่านกฎหมาย ขึ้นเงินเดือนแล้ว

ขรก.เฮ สนช. ฉลุย  ผ่านกม.ขึ้นเงินเดือน พร้อมเห็นชอบพิธีสาร 2 ฉบับ  ผ่อนปรนหลักเกณฑ์บริการด้านการค้า การเงิน ของประเทศอาเซียน

http://www.matichon.co.th/online/2015/03/14267445751426744627l.jpg

เมื่อเวลา 10.20 น.วันที่ 19 มีนาคม มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่ประธาน โดยได้แจ้งให้สมาชิกว่า เนื่องจากการประชุมในวันนี้ (19มี.ค.) มีวาระการพิจารณากฎหมายและเรื่องอื่นๆจำนวนมาก จึงขอเลื่อนการรายงานความคืบหน้าการยกร่างรัฐธรรมนูญออกไปเป็นสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งรายงานการชี้มูลความผิดของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

เพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่งเนื่องจากมีพฤติการณ์ว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยส่อว่าทุจริต ส่อว่าใช้อำนาจหน้าที่ไม่ชอบปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติทำให้เกิดความเสียหาย จากกรณีการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งตนได้นัดประชุมนัดแรกในวันที่ 2 เมษายน เพื่อนัดวันแถลงเปิดคดี และเปิดโอกาสให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้เสนอพยานหลักฐานเพิ่มเติม  และตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมเป็นต้นไปเพื่อให้สมาชิกรับเอกสารประกอบการพิจารณาได้ ซึ่งมีทั้งหมด 2 ชุด ประกอบด้วยชุดที่ 1จำนวน 479  หน้า และชุดที่ 58,000 หน้า ส่วนสมาชิกคนใดต้องการยื่นญัตติซักถาม ก็สามารถยื่นได้ก่อนการประชุมครั้งที่ 2 ซึ่งจะได้การนัดประชุมต่อไป

จากนั้น เข้าสู่วาระพิจารณาเรื่องด่วน ได้แก่
- ร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการทหาร (ฉบับที่...) พ.ศ....
- ร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่....) พ.ศ....
- ร่างพ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่....) พ.ศ... และ
- ร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา (ฉบับที่ ... ) พ.ศ...

ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยร่างพ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับบัญชีเงินเดือน การปรับอัตราเงินเดือนให้เหมาะสมเป็นธรรม และได้มาตรฐาน โดยคำนึงถึงค่าครองชีพที่เปลี่ยนไป และเพื่อแก้ไขปัญหาบางประเด็นอย่างเร่งด่วน โดยไม่เกี่ยวกับระยะยาวที่อาจต้องปรับทั้งระบบ

อย่างไรก็ตาม ร่างพ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับ ไม่มีมีสมาชิกคนใดอภิปราย ที่ประชุมจึงได้ลงมติเห็นชอบในวาระ 3 ด้วยเอกฉันท์ ประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ในฐานะสมาชิก สนช. เปิดเผยภายหลังการประชุม สนช. ว่าเมื่อ พ.ร.บ.ทั้ง 5 ฉบับมีผลบังคับใช้ จะมีทำให้มีการปรับขึ้นเงินเดือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหาร ตำรวจ และข้าราชการรัฐสภา อีก 1 ขั้น หรือประมาณ 4% โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 ซึ่งจะครอบคลุมข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พนักงานมหาวิทยาลัย และลูกจ้างประจำ โดยในส่วนของข้าราชการพลเรือนนั้น คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) สามารถดำเนินการปรับเพิ่มเงินเดือนให้สอดคล้องกับกฎหมายเฉพาะดังกล่าวได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องยกร่างกฎหมายใหม่มาประกอบ ส่วนพนักงานมหาวิทยาลัย และลูกจ้างประจำนั้น ทางมหาวิทยาลัยจะต้องประสานสำนักงบประมาณ เพื่อขอให้จัดสรรงบสนับสนุนให้พนักงานได้ปรับเพิ่มเช่นเดียวกับข้าราชการ

“การเพิ่มเงินเดือนดังกล่าว ข้าราชการชั้นผู้น้อยตั้งแต่ระดับชำนาญการ ชำนาญงาน หรือระดับ 7 ลงมาจะได้รับการปรับเพิ่มขึ้นในอัตรา 4% ของอัตราเงินเดือนปัจจุบัน ส่วนข้าราชการระดับสูง จะได้รับประโยชน์ในส่วนของการเปิดขั้นสูงของเงินเดือนเพิ่มขึ้นอีก 10% ทำให้คนที่เคยเงินเดือนตันจะได้เงินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ เมื่อได้รับอัตราเงินเดือนใหม่ จะทำให้ได้รับบำเหน็จบำนาญเพิ่มขึ้นตามฐานเงินเดือนใหม่ด้วย”  อธิการบดีมศว กล่าว


นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินรอบที่ 6ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียนและตารางข้อผูกพันเฉพาะสำหรับการค้าบริการด้านการเงินภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน

โดยพิธีสารฉบับนี้มีสาระสำคัญคือขยายความร่วมมือด้านการค้าบริการระหว่างประเทศสมาชิก โดยลด/ยกเลิกข้อจำกัดที่เป็น อุปสรรคต่อการค้าบริการภายใต้กรอบอาเซียนให้มากกว่าที่เปิดเสรีตามกรอบองค์การการค้าโลก ซึ่งได้ปรับปรุงตารางข้อผูกพันเฉพาะ (Schedule of Specific Commitments: SOC)  ใน 2 สาขา ได้แก่ สาขาประกันภัย และสาขาการธนาคาร 

โดยในสาขาประกันภัยได้ปรับเพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติของบริการนายหน้าและตัวแทน ใน Mode 3 (การจัดตั้งธุรกิจ) จากเดิมที่จำกัดไว้ไม่เกินร้อยละ ๒๕ ของทุนจดทะเบียน เป็นร้อยละ ๔๙ ของทุนจดทะเบียน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและแนวปฏิบัติในปัจจุบัน ส่วนสาขาการธนาคารปรับปรุงตารางข้อผูกพัน สาขาย่อยธนาคารพาณิชย์ใน Mode 3 ให้สอดคล้อง กับกฎหมายและแนวปฏิบัติในปัจจุบัน ยกเลิกข้อจำกัดด้านจำนวนบุคลากรสำหรับบุคคลสัญชาติอาเซียน (Mode 4) โดยให้เป็นไปตามแผนของธุรกิจ แต่ยังต้องขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย

มติชนออนไลน์
วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

ที่มา:  http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1426744575